DRS คืออะไร?
DRS ย่อมาจาก Dynamic Resource Scheduling เป็นเทคโนโลยีสำหรับปรับสมดุลและจัดสรรทรัพยากรต่างๆ (เช่น CPU และ Memory) ภายในคลัสเตอร์โดยอัตโนมัติ เป้าหมายหลักคือเพื่อให้การทำงานของแอปพลิเคชันและ Virtual Machine (VM) มีเสถียรภาพและประสิทธิภาพสูงสุดอย่างต่อเนื่อง
สำหรับ Sangfor HCI DRS 2.0 เป็นเวอร์ชันที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น โดยใช้ AI ในการวิเคราะห์และคาดการณ์ภาระงาน (load) ของคลัสเตอร์ในอีก 2 ชั่วโมงข้างหน้า โดยอิงจากข้อมูลประวัติการใช้งานย้อนหลัง 5 วัน จากนั้นจะทำการจัดสรรทรัพยากรอย่างชาญฉลาดโดยการย้าย VM จากโฮสต์ (Node) ที่มีภาระงานสูงไปยังโฮสต์ที่มีภาระงานต่ำกว่า เพื่อป้องกันปัญหาทรัพยากรไม่เพียงพอและปรับสมดุลของโหลดในระบบ
การทำงานและโหมดต่างๆ
DRS 2.0 มีโหมดการทำงานหลักๆ 2 โหมดเพื่อให้ผู้ใช้เลือกตามความต้องการ:
1. Better Performance (เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด):
- เป้าหมาย: ปรับสมดุลภาระงานของแต่ละโฮสต์ในคลัสเตอร์ให้ใกล้เคียงกันที่สุด
- การทำงาน: ระบบจะย้าย VM จากโฮสต์ที่มีภาระงานสูงไปยังโฮสต์ที่มีภาระงานต่ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของโฮสต์และ VM ทั้งหมด
2. Less Cost (เพื่อการประหยัด):
- เป้าหมาย: รวบรวม VM ให้ทำงานอยู่บนโฮสต์จำนวนน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อประหยัดทรัพยากร (เช่น พลังงาน)
- การทำงาน: ระบบจะย้าย VM จากโฮสต์ที่มีภาระงานน้อย ไปรวมกับโฮสต์ที่มีภาระงานสูงกว่า เพื่อให้โฮสต์บางตัวว่างและสามารถเข้าสู่โหมดประหยัดพลังงานได้
นอกจากการตั้งค่าโหมดหลักแล้ว ยังสามารถตั้งค่าระดับการทำงานอัตโนมัติ (Automation Level) ได้ 3 แบบคือ:
- Automated: ระบบจะย้าย VM โดยอัตโนมัติตามผลการประเมิน
- Manual: ระบบจะให้คำแนะนำในการย้าย แต่ผู้ดูแลระบบต้องเป็นผู้อนุมัติเอง
- Disabled: ปิดการทำงานของ DRS
ผลของ Score (คะแนน) - Score ยิ่งสูงยิ่งดี
* Score ในที่นี้คือดัชนีชี้วัด "ความสมบูรณ์" โดยรวมของคลัสเตอร์ ซึ่งประเมินจาก 2 ปัจจัยหลักคือ Performance Score (คะแนนประสิทธิภาพ) และ Reliability Score (คะแนนความน่าเชื่อถือ)
* เมื่อ DRS 2.0 ให้คำแนะนำในการย้าย (Migrate) VM มันจะแสดงให้เห็นว่า "Score After" (คะแนนหลังการย้าย) จะสูงขึ้น ซึ่งหมายความว่าการย้าย VM ตามคำแนะนำนั้นจะทำให้คลัสเตอร์มีสุขภาพโดยรวมที่ดีขึ้น ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการทำงานและการกระจายโหลดที่สมดุล รวมถึงความน่าเชื่อถือของระบบด้วย
ความหมายของ Level ในหน้า Resource Rating
Level ในหน้านี้ไม่ได้หมายถึงระดับของทรัพยากร (เช่น สูงหรือต่ำ) แต่หมายถึง "ระดับความน่าเชื่อถือหรือความสมบูรณ์ของข้อมูล" ที่ระบบใช้ในการคำนวณ Score
- ฟีเจอร์บางอย่างต้องใช้เวลาในการเก็บข้อมูลย้อนหลังเพื่อใช้ในการวิเคราะห์และคาดการณ์
- ตัวอย่างเช่น การตรวจจับความล้มเหลวของดิสก์ (disk failure detection) จะยังไม่สามารถใช้งานได้ในช่วง 10 วันแรกหลังจากการติดตั้ง และจะถูก "แปะป้ายว่าเป็น Level 3" (Labeled as Level 3)
- เช่นเดียวกัน การตรวจจับความล้มเหลวของหน่วยความจำ (memory failure detection) จะต้องใช้ข้อมูลย้อนหลัง 30 วัน
ดังนั้น Level จึงหมายถึง:
- Level 3: บ่งชี้ว่าระบบยังไม่มีข้อมูลย้อนหลังเพียงพอสำหรับบางเมตริกในการประเมิน ทำให้ค่า Score ที่แสดงอาจยังไม่แม่นยำ 100% เพราะคำนวณจากข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์
- Level ที่ต่ำกว่า (เช่น 1 หรือ 2): หมายความว่าระบบได้เก็บรวบรวมข้อมูลย้อนหลังมาเป็นระยะเวลาที่เพียงพอแล้ว ทำให้การคำนวณ Score และการให้คำแนะนำของ DRS มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือมากขึ้น
สรุปง่ายๆ คือ Level บอกถึง "ความสมบูรณ์ของข้อมูลที่ใช้คำนวณ" Level ยิ่งสูงยิ่งดี ในขณะที่ Score บอกถึง "สุขภาพของคลัสเตอร์" ยิ่งScoreสูงยิ่งดี
ข้อคิดเห็น
0 ข้อคิดเห็น
โปรด ลงชื่อเข้าใช้ เพื่อแสดงข้อคิดเห็น